วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

มุมหนึ่งของชีวิตน้อยๆที่เพิ่งเกิด "น้องการ์ตูน"


ชีวิตที่มีสีสัน ท้องฟ้าอันแจ่มใส เมื่อกำเนิดเกิดเธอ"น้องการ์ตูน"








ฉันมีลูกสาวอยู่แล้ว 2 คนคนนี้เป็นคนที่ 3 แต่ฉันก็ยังรู้สึกตื่่่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าเขา และแล้วฉันก็ดีใจหลังจากลุ้นในใจอยู่นานว่าลูกจะเป็นผู้หญิงหรือชาย เพราะทำการซาวด์ 2 ครั้งแล้วหมอก็ยังมองไม่เห็นเพศเด็กเลย ตอนที่ฉันท้องฉันอายุอย่างเข้า 38 ปี หมอที่รับฝากครรภ์แนะนำให้ฉันทำการเจาะน้ำคร่ำเพื่อเช็คว่าเด็กในท้องผิดปกติหรือไม่โดยฉะเพราะคุณแม่ที่มีลูกอายุ 35 ปีขึ้นไป  ลูกมีโอกาสเป็นดาวซินโดมสูง  ถ้าคุณแม่ต้องการรู้ข้อมูลเปิดศึกษาได้ที่เว็ปนี้ค่ะ  http://healthy.in.th/categories/healthful/news/2732

การเจาะน้ำคร่ำต้องอายุครรภ์หกเดือนขึ้น   ฉันจึงคิดว่าไม่เจาะตรวจดีกว่าเพราะถ้าดูแลครรภ์จนครบ 6 เดือนแล้วทำการเจาะ ถ้าลูกปกติก็ดีไป (เสียเงินค่าตรวจฟรีไป)  และยังเสี่ยงกับการแท้งด้วย แต่ถ้าตรวจแล้วพบว่าลูกผิดปกติ มีโอกาสเป็นดาวซินโดม ฉันคงไม่กล้าที่จะเอาลูกออกหรอก  อย่างไรเขาก็เป็นลูกเรา  ถึงจะออกมาเป็นดาวซินโดมจริงๆก็ต้องเลี้ยง ฉันจึงตัดสินใจไม่เจาะตรวจ

                                                    และแล้วพอครรภ์ฉันได้ 20 กว่าสัปดาห์หมอก็ตรวจพบน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติคือมีโอกาสเป็นเบาหวานซึ่งมีผลกับลูกในครรภ์ ฉันเลยถูกควบคุมอาหารให้อยู่ในเกณฑ์ที่คุณหมอกำหนด คือ ลดอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต (น้ำตาลหรือแป้ง) และเพิ่มอาหารจำพวกโปรตีน( เนื้อสัตว์)และผัก ผลไม้ให้มากขึ้น ดูรายละเอียดเบาหวานกับการตั้งครรภ์ได้ที่เว็ปนี้ ttp://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=183 

 ฉันต้องทำการเจาะตรวจเลือดถี่ขึ้นเพื่อตรวจน้ำตาลในเลือดและฉันก็สามารถควบคุมอาหารได้เพราะนัดตรวจทุกครั้งผลเลือดออกมาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด หมอกำหนดคลอดของฉันประมาณวันที่ 28 พ.ค.54   เหลืออีก1 เดือนฉันจึงย้ายตัวเองจากชลบุรีมาอยู่พักอาศัยที่บ้านแม่ที่ลาดกระบัง เพื่อที่จะคลอดที่โรงพยาบาลแถวกรุงเทพ แต่พอมาถึงเช้าวันที่ 14 พฤษภาคม  ฉันรู้สึกปวดหลังแต่เช้า  พอลุกขึ้นมาก็รู้สึกเหมือนก้นเปียกๆเลยเอามือลูบดูก็เห็นเป็นเลือดจางๆแฉะที่พื้นที่นอน ฉันลุกขึ้นตกใจว่ามาจากไหน จึงรู้ว่าเป็นเลือดตัวเอง ฉันจึงค่อยๆเดินออกจากห้อง แล้วบอกกับพ่อกับแม่ฉันที่นั่งอยู่ ว่า ฉันเป็นอะไรก็ไม่รู้ทำไม่เลือดออก คือไม่มีอาการปวดท้องจะคลอดเลย   ปวดแต่หลังนิดหน่อย แต่ระหว่างที่ทุกคนกำลังสอบถามวันกำหนดคลอดของฉัน ฉันก็เกิดปวดท้องถ่วงเป็นลูกๆขึ้นมาทันที จนเดินแถบไม่ไหว ทางบ้านจึงรีบหารถพาฉันส่งโรงพยาบาล ช่วงนั้นลูกสาวคนกลางน้องกีวีปิดเทอมพอดีได้ไปด้วยกันรู้สึกเขาจะดีใจมาก เมื่อรู้ว่าฉันจะคลอดน้องแล้ว

                                  หลังจากทำการตรวจแล้วหมอบอกว่ามดลูกเปิดแล้ว 3 เซ็นให้เปลี่ยนเสื้อผ้านอนรอห้องคลอดได้เลย  ฉันจึงคิดว่าได้คลอดคืนนี้แน่นอน แต่ก็คิดผิดเพราะฉันนอนปวดท้องเป็นลูกๆเป็นช่วงๆ เป็นๆหายๆอยู่อย่างนี้ทั้งคื่น จนคนที่นอนอยู่ข้างเตียงฉันเขาเข้ามาและก็ไปคลอดกันหลายคนแล้วมีอยู่ข้างเตียงฉันอยู่หนึ่งคนมีเครื่องวัดระดับการเต้นหัวใจของเด็กตลอดเวลา  หมอจะมาตรวจถี่มาก ฉันถามเขา จึงได้รู้ว่าเขาหยิบยากินผิด จะหยิบยาบำรุงครรภ์แต่ไปหยิบยาแก้อักเสบมากินซึ่งอยู่ใกล้กัน  ฉันเลยเพิ่งรู้ว่ามีผลต่อเด็กในครรภ์ เพราะครรภ์ของเขาเพิ่งได้ 6 เดือน ฉันจึงได้แต่ภาวนาให้ลูกของเขาปลอดภัยด้วยเทอญ  พอได้เวลาประมาณ 05.00 กว่าๆฉันก็เริ่มปวดถี่มากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ จนแถบร้องออกมาดังๆ แต่ก็อายเขา  เลยได้แต่กัดฟันอย่างเดียว ใครว่ามีลูกแล้วคนที่สองหรือสามจะคลอดง่าย ฉันคนหนึ่งล่ะขอเถียงหัวชนฝาเลย เพราะว่ามันปวดมากๆ จนแปดโมงเช้าฉันรู้สึกได้ว่ามีน้ำใหลลื้นๆใหลออกมามากผิดปกติ จึงกดเรียกพยาบาลว่าปวดทนไม่ไหวแล้วและรู้สึกน้ำคร่ำจะใหลออกมาแล้วด้วย  พยาบาลจึงทำการตรวจช่องคลอดฉันอีกครั้งบอกว่าเปิด 8 เซ็นแล้วเตรียมเข้าห้องคลอดได้เลย

              พอได้ยินว่าเข้าห้องคลอดฉันก็ดีใจแล้ว ว่าถ้าเจ้าตัวเล็กออกมาได้คงจะโล่งหายปวดซะที   แต่ก็ตึ้นเต้นมากเหมือนกัน  ตอนเข้ามาอยู่ห้องทำคลอด ทั้งๆทีปวดอยู่ ฉันก็บอกลูกในใจขอให้ออกมาง่าย และปลอดภัยน่ะลูก    แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิดเลย ลมเบ่งฉันไม่มีเลย หมอที่ทำคลอดบอกให้พยายามสูดลมหายใจ ยาวๆแล้วเบ่ง ฉันก็ทำตามแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ ฉันทำหลายๆหนจนรู้สึกว่าเหนื่อยๆๆมาก  และปวดบริเวณช่องคลอดเป็นอย่างมาก หมอและพยาบาลเข้ามาสองถึงสามคนพูดให้กำลังใจฉัน ให้พยายามอีกนิด ฉันจึงคิดว่าเอาว่ะอีกสักครั้ง และฉันก็พยายามเบ่งเต็มที แต่ก็ไม่ออก  ฉันหมดแรงและเริ่มท้อ บอกหมอว่า " คุณหมอฉันไม่ไหวแล้วช่วยฉันหน่อย    "ในความรู้สึกของฉันว่าคนที่หนึ่งและสองคลอดยากแล้วมาเจอคนที่สามคลอดยากกว่าอีก ฉันเริ่มรู้สึกเหนื่อยและหายใจไม่ค่อยออก หมอจึงพูดว่า "เราจะช่วยกันแต่คุณแม่ต้องสูดลมหายใจลึกๆและเบ่งออกมาให้เต็มที ไม่งั้นลูกคุณไม่รอดน่ะค่ะตอนนี้เราเห็นหัวลูกคุณแล้ว " เขาให้พยาบาลมาโกยที่ท้องฉันหนึ่งคน มาช่วยส่งเสียงเบ่งอีกหนึ่งคน พอฉันได้ยินคำว่า ลูกคุณไม่รอด ฉันจึงรวบรวมพลังทั้งหมดที่มีอยู่สูดหายใจเข้าลึกๆเข้าลึกๆและเบ่ง เบ่ง เบ่งอย่างเต็มที
            สุดท้ายฉันก็รู้สึกว่าลูกฉันหลุดออกมาแล้วหน่อยหนึ่ง แต่อยู่ดีๆฉันก็ต้องร้องกรี๊ดออกมาสุดเสียงดังมากเพราะรู้สึกเหมือนโดนบิดใส้อย่างแรง  แล้วก็โล่งลง เพราะเจ้าตัวเล็กหลุดออกมาแล้ว  หมอบอกว่าฉันได้ลูกสาวแต่ลูกคุณรกพันคอสองรอบ รอดออกมาได้โดยปลอดภัยจากการคลอดออกแบบธรรมดาถือว่าโชคดีมาก แต่หน้าเด็กจะเขียวและหน้าแดงสักพักใหญ่ก็จะหาย โธ่ลูกแม่ พยาบาลล้างตัวเด็กแล้วอุ้มให้ดูดนมฉัน ฉันเห็นแล้วอดสงสารเขาไม่ได้ หน้าบวมแดงปนเขียว ปากเจ่อเลย ฉันจึงว่า "เก่งมากลูกแม่ที่ออกมาได้อย่างปลอดภัย"

หลังจากให้นมเสร็จก็หลับ
                                                                         
 เด็กหญิง ธันยภรณ์ เกตุทนงค์
 น้องการ์ตูน
 เกิดวันอาทิตย์
 15 พฤษภาคม 2554
 เวลา 09:23
 น้ำหนักแรกเกิด 3,360 /สูง 53 เซน

พอออกจากห้องคลอดก็ได้เจอกับลูกสาวอีกสองคนน้องก้อย,น้องกีวีและสามีที่มารอดูน้อง ทุกคนต่างตื่นเต้นที่จะได้เห็นน้อง ฉันเองก็ดีใจที่ได้มีลูกสาว เพิ่มมาอีกหนึ่งคน เป็นสามใบเถาเลยงานนี้
ฉันรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 3 วัน เราก็เดินทางกลับไปฟักฟื้นตัวที่บ้านแม่ของฉัน

หน้าแดงมากเพราะรกพันคอสองรอบก่อนจะคลอดออกมา






                                        

หน้าตาดูสดใสขึ้นหลังจากวันคลอด 1 วัน




















      ของใช้ทีจำเป็นต้องใช้ที่โรงพยาบาลที่ควรเตรียมสำหรับคุณแม่และเอกสารที่ต้องใช้ ดูได้ที่เว็ปนี้ค่ะ
http://www.thaiparents.com/triptohospital.html













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น